พระรอดกรุวัดหนองมนลพบุรี
|
||||||||||||||||
![]() ![]() |
||||||||||||||||
![]() ส่งข้อความ
|
||||||||||||||||
ชื่อร้านค้า
|
มังกร หิรัณย์ | |||||||||||||||
โดย
|
Malee22 | |||||||||||||||
ประเภทพระเครื่อง
|
พระกรุ | |||||||||||||||
ชื่อพระ
|
พระรอดกรุวัดหนองมนลพบุรี |
|||||||||||||||
รายละเอียด
|
x ปิดหน้าต่าง พระรอดหนองมน สวยแชมป์โลก สุดยอดสายเหนียวลพบุรี พระรอดหนองมน สวยแชมป์โลก สุดยอดสายเหนียวลพบุรี พระรอดหนองมน สวยแชมป์โลก สุดยอดสายเหนียวลพบุรี พระรอดหนองมน สวยแชมป์โลก สุดยอดสายเหนียวลพบุรี พระรอดหนองมน สวยแชมป์โลก สุดยอดสายเหนียวลพบุรี พระรอดหนองมน สวยแชมป์โลก สุดยอดสายเหนียวลพบุรี ราคา โทรถาม สถานะ โทรถาม รายละเอียด พระรอดหนองมน สนิมแดง ลพบุรี เนื้อชินตะกั่วสนิมแดง สภาพสวยสุดๆ ผิวดีสุดๆ สนิทแดงๆ เดิมๆ ทั้งองค์แบบนี้สุดจริงๆครับ สุดยอดสายเหนียวแห่งเมืองลพบุรีที่เป็นตำนานสายเหนียวชนิดแมลงวันไม่ได้กินเลือดเลยครับ เรื่องคุ้มครองแคล้วคลาดปลอดภัยก็มีประสบการณ์เล่ากันไม่จบสิ้นจนเป็นตำนานแห่งเมืองลิง...สมญานามพระลอดแห่งเมืองละโว้เลยครับ วัดหนองมน เป็นวัดเล็กๆ ตั้งอยู่กลางทุ่ง ใน ต.เขาสมอคอน อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี เป็นที่กล่าวขวัญและเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้าง ขวางตั้งแต่อดีตก็คือ “พระรอดวัดหนองมน” พระรอดเนื้อโลหะอันลือเลื่องนั่นเอง ที่เรียกกันว่า “พระรอด” นั้น ด้วยพุทธลักษณะค่อนข้างคล้าย “พระรอด วัดมหาวัน” หนึ่งในพระชุดเบญจภาคี สุดยอดพระเครื่อง ของไทย อีกทั้งพุทธคุณที่ปรากฏเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้บูชาว่า “เป็นเลิศในด้าน นิรันตราย” ทั้งคุ้มครองป้องกันและแคล้ว คลาด เฉกเช่นเดียวกับ “พระสกุลลำพูน” จนเป็นที่กล่าวกันว่า “แขวนท่านไว้ไม่มีทางตายโหงแน่นอน” นับเป็นพระที่มีประสบ การณ์มาก จนกลายเป็นพระยอดนิยมพิมพ์หนึ่งของเมืองลพบุรี ณ ปัจจุบันเรียกได้ว่าหายากพอๆ กับพระสกุลลำพูนทีเดียว อีกทั้งค่านิยมก็สูงขึ้นเรื่อยๆ พูดได้ว่า ถ้าไม่มี “หลวงพ่อเมือง” ก็คงไม่มี “พระรอดหนองมน” และวัดหนองมนก็คงยังเป็นวัดเล็กๆ ในหมู่บ้านที่ไม่เป็นที่รู้จักของสังคมภายนอก ด้วยตามประวัติขององค์พระเมื่อ 100 กว่าปีมาแล้วนั้น “พระรอดหนองมน” ไม่ได้สร้างที่วัดหนองมน จ.ลพบุรี ในหนังสือเครื่องรางของขลัง ของ อ.ประชุม กาญจนวัฒน์ ได้กล่าวถึง “พระรอดหนองมน” ไว้ว่า “… สมภารผู้แก่กล้าวิชาอาคมของเมืองพิจิตรท่านหนึ่ง ชอบการแข่งเรือและเลี้ยงนกเขาเป็นอย่างมาก อยู่มาวันหนึ่งท่านลงมือ ทาน้ำมันยางเรือแข่งจนเสร็จเรียบร้อย จากนั้นมีเด็กๆ มายุ่งกับเรือที่ทาสีน้ำมันยัง ไม่แห้ง ท่านจึงนำธนูมาเล็งขู่เด็กๆ ให้หนีไป แต่ลูกธนูกลับหลุดมือไปถูกเด็กคนหนึ่งในกลุ่มเข้า ท่านจึงต้องหนีจากเมืองพิจิตร มาอยู่ลพบุรี พร้อมด้วยถุงใหญ่ซึ่งบรรจุ “พระเนื้อตะกั่ว” จำนวนมากติดตัวลงมาด้วย “ สมภารรูปนั้นก็คือ พระครูเมธีธรรมารมณ์ หรือ หลวงพ่อเมือง ประมาณปี พ.ศ.2444-2446 ท่านได้เดินทางจาก จ.พิจิตร ผ่านจังหวัดต่างๆ จนในที่สุดก็มาจำพรรษาที่วัดหนองมน จ.ลพบุรี ในสมัย พระอธิการแขก เป็นเจ้าอาวาส ชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธาพระธุดงค์รูปนี้มาก ในการสร้างอุโบสถวัดหนองมน ท่านได้นำพระที่ติดตัวมาออกแจกจ่ายเพื่อเป็นที่ระลึกแก่ญาติโยมผู้มีศรัทธาร่วมกำลังกายและกำลังทรัพย์จนอุโบสถแล้วเสร็จสมบูรณ์ ส่วนพระที่เหลือได้ก่อ “พระเจดีย์” ด้านหน้าและด้านหลังอุโบสถเพื่อบรรจุไว้ ต่อมาได้มีการเปิดกรุพระเจดีย์เพื่อนำ “พระรอด หนองมน” ออกมาแจกจ่ายแก่ผู้ร่วมบุญร่วมกุศลกับทางวัดอีกหลายครั้งหลายครา พระรอดหนองมน จะมีเพียงเนื้อตะกั่ว สนิมแดงเพียงเนื้อเดียวเท่านั้น พุทธลักษณะพิมพ์ทรงเป็นรูปสามเหลี่ยมชะลูดมุมมน แต่การสร้างไม่ค่อยประณีตนัก ทำให้มีเนื้อส่วนเกินยื่นออกมาอย่างไม่สม่ำเสมอเหมือนกัน ทุกองค์ องค์พระกะทัดรัดพองาม ความกว้างประมาณ 1.2 ซ.ม. และสูงประมาณ 2.2 ซ.ม. พุทธลักษณะองค์พระประธานประทับนั่ง แสดง ปางมารวิชัยหรือสะดุ้งมาร เหนืออาสนะ ฐานหมอนชั้นเดียวค่อนข้างหนา กรอบโดย รอบเป็นร่องคล้ายเส้นซุ้ม แต่ไม่เด่นชัดนัก ลักษณะการสร้างแบบง่ายๆ ไม่มีลวดลายหรือรายละเอียดอื่นประกอบ พิมพ์ด้านหลังส่วนใหญ่จะเรียบตัน มีบ้างบางองค์ที่เป็นแอ่งเว้า แต่จำนวนน้อยมาก สามารถแบ่งแยกพิมพ์ได้เป็น พิมพ์ใหญ่, พิมพ์กลางหรือพิมพ์ต้อ และพิมพ์เล็ก ส่วนพิมพ์อื่นๆ พบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เช่น พิมพ์พระร่วงนั่ง พิมพ์หลวงพ่อโตหรือหลวงพ่อโป้ และพิมพ์เม็ดน้อยหน่า เป็นต้น ด้วยความที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ “พระรอดหนองมน” มีสนนราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับพระพิมพ์ในรุ่นเดียวกัน การทำเทียมเลียนแบบจึงมีสูง เช่นกัน ต้องพิจารณาให้ดี พระที่มีอายุเก่าแก่นับ 100 ปีนั้น นอกจากการพิจารณาพิมพ์ทรงแล้ว ต้องพิจารณาถึง “ความเก่าของเนื้อขององค์พระ” นั่นคือ คราบสนิมแดงและสนิมไข หรือบางองค์อาจมีพรายปรอท อันเกิดจากเนื้อขององค์พระที่สร้างโดยตะกั่วเกิดปฏิกิริยากับอากาศโดยรอบในกรุ ซึ่งนับเป็นหลักการพิจารณาพระแท้-พระเก๊ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเนื้อขององค์พระและพิมพ์ทรงนั้นปลอมแปลงกันได้ง่ายแต่ความเก่าไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ครับผม พระรอดหนองมน สนิมแดง ลพบุรี "วัดหนองมน" อันเป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งใครเป็นผู้สร้างหรือสร้างเมื่อไรก็คงไม่มีใครตอบถูก เพียงแต่สันนิษฐานว่า คงสร้างขึ้นเมื่อตอนต้นรัตนโกสินทร์นี่เองเพราะจากการที่ผมได้สังเกตดูด้วยตนเองจากพระเจดีย์ก็ดี ตลอดจนกระทั่งเสนาสนะกฏิต่าง ๆ ทั้งของเก่าและของใหม่ได้นำมาเปรียบเทียบกัน ก็เชื่อว่า คงจะสร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ค่อนข้างแน่และเชื่อว่าชาวหนองมน (หรือชาวบางงา) ได้ร่วมใจกันสร้างขึ้น วัดนี้นี่แหละที่มีชื่อเสียงกระฉ่อนกำจรกำจายไปทั่วยุทธจักร ก็เพราะมีกรุพระรอดหนองมนอยู่กรุหนึ่งแตกกรุเมื่อปี พ.ศ. 2499 (68 ปีล่วงมาแล้ว) นั่นเอง มีผู้เฒ่าผู้แก่ชาวบ้านบางงาได้กรุณาเล่าประวัติความเป็นมาของ พระรอดหนองมนให้ฟังว่าหลวงตาองค์หนึ่ง เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดหนองมน มีชื่อว่าหลวงตาแขก เป็นผู้ที่นำพระนี้มาจากจังหวัดพิจิตรและนำลงมาครั้งละมาก ๆ (หลายบาตรพระ) การนำมานั้นผู้เขียนเข้าใจว่า จะต้องใส่เรือล่องมาตามแม่น้ำเจ้าพระยาถึงเมืองสิงห์บุรี มีแม่น้ำลพบุรีผ่านมายังตำบลบางงา และมีลำคลองผ่านจากบางงาไปถึงวัดหนองมนอีกต่อ เพราะถ้านำใส่ย่ามสะพายมาคงจะหนักมาก ผู้ที่จะนำติดตัวมาได้ในระยะไกล ๆ จะต้องไม่เกิน 8 กิโลกรัมต่อระยะทาง 6 กิโลเมตร การที่หลวงตานำมาหลายบาตรพระนั้นพระคุณท่านคงจะไม่ใส่คอนหาบมาเป็นกองคาราวาน โดยใช้ลูกศิษย์ลูกหาหรือคณะกรรมการเป็นผู้นำเมื่อนำมาแล้วยังทราบว่า หลวงตาท่านได้นำไปเก็บรักษาไว้ยังธรรมาสน์อาสนสงฆ์ ไม่มีใครสนใจเลยเพราะสมัยก่อนนั้น ยังไม่มีการลักขโมยพระเหมือนปัจจุบันนี้ เมื่อหลวงตาแขกได้ถึงแก่มรณภาพ อาจารย์ทองศรี พร้อมด้วยมรรคทายกวัดก็ได้สร้างอนุสาวรีย์เพื่อบรรจุอัฐิก็ได้ตกลงบรรจุพระรอดหนองมนเข้าไปด้วย พระรอดหนองมนจึงอยู่ในหลายที่หลายแห่ง เช่น อยู่ที่ใบเสมาโบสถ์โดยรอบเจดีย์หน้าโบสถ์และอนุสาวรีย์หลังพระอุโบสถ คนที่สร้างอนุสาวรีย์เขาใช้ตะแกรงช้อนปลาครอบลงบนอนุสาวรีย์และทำการโบกปูนปิดไว้จนมิดชิด พระที่บรรจุในครั้งนั้นก็จะมีพระรอดหนองมน มีพุทธลักษณะหลายพิมพ์ทรง รวมกับพระพุทธรูปทองคำองค์เล็ก ๆ และมีพระหลายชนิดรวมกันอยู่ด้วย เช่น พระปิดตาเนื้อทองแดง 2 องค์ พระเนื้อดินเผาสีดำอันมีลักษณะคล้ายพระคงลำพูนหรือพระหลวงปู่เนียม (สุพรรณบุรี) อยู่ 3 องค์ นอกจากนั้นจะเป็นพระรอดหนองมนพิมพ์ทรงต่าง ๆ กันเช่นพระรอดหนองมนพิมพ์ใหญ่ - พิมพ์กลาง-พิมพ์เล็ก, พระหลวงพ่อโตเนื้อตะกั่วสนิมแดงทั้งพิมพ์เล็กและพิมพ์ใหญ่,พระเนื้อตะกั่วสนิมแดงพิมพ์พิจิตรเม็ดน้อยหน่า,พิมพ์พระลำพูนซึ่งเป็นเนื้อตะกั่วสนิมแดง (มีลักษณะเหมือนพระวัดสุวรรณ) แต่มีผิวฝ้ากรุและสนิมไม่เหมือนกันต้องใช้ความสังเกตและนำมาเปรียบเทียบกัน ผิวกรุและฝ้ากรุจะขาวนวลกว่ากรุวัดสุวรรณ ผู้ที่มีพระพิมพ์นี้มากที่สุดคือคุณตี๋คหบดีแห่งท่าโขลง มีพระรอดหนองมนสวยที่สุดหลายพิมพ์ทรงเจ้าของหวงแหนมากและบุคคลนี้แหละที่มีพระหูยานสนิมแดงสวยงามที่สุดในจังหวัดลพบุรีละ ครั้งแรกพระรอดกรุนี้จะไม่มีสนิมเลยหลังจากฝังกรุนานเข้าก็เกิดปฏิกิริยาทางเคมี (ธรรมชาติ) สภาวะแวดล้อมและความอับชื้น,ไอน้ำ,และหยดเหงื่อภายในกรุที่มีทั้งความร้อนและหนาวทำให้เกิดหยดน้ำขึ้นภายในกรุเหมือนกับเวลาหน้าร้อนเราห่มผ้าเหงื่อจะออกมาฉันใดภายในกรุก็คงจะฉันฉันนั้นเมื่อเหงื่อหรือหยดน้ำธรรมชาติมาถูกองค์พระนานวันเข้า นานเดือนเข้า นานปีเข้า ก็ยิ่งทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างตะกั่วกับน้ำมากขึ้น วันใดไม่ปรากฏการบรรจุเพราะผู้ที่เล่าให้ฟังก็จำไม่ได้ เพียงแต่รู้ว่าบรรจุเกินกว่า 50 ปี บวกเข้ากับการแตกกรุมาแล้วร่วมๆ70 ปี รวมเป็น 120 ปีแน่นอนว่าเกินกว่าร้อยปีเข้าไปแล้ว สาเหตุที่พบพระรอดนั้น (หรือแตกจากกรุนั้น) เพราะมีชาวบ้านหนองมนคนหนึ่งได้ใช้ถ่อถ่อเรือมาตามท้องทุ่งนาในเวลาน้ำหลากไหลท่วมพื้นที่ (บริเวณวัด) พบมาถึงตรงเจดีย์ชาวบ้านผู้นั้นได้เอาถ่อทิ่มไปถูกซุ้มเสมาของเจดีย์พอดี จะเป็นการจงใจหรือไม่ขอเดาประกอบกับปูนที่โบกไว้ก็หมดอายุเสื่อมสภาพตาอายุกาล พระรอดที่บรรจุไว้เป็นเวลานาน ๆ เข้า ก็แสดงปาฏิหาริย์ไหลลงมาให้เห็นคนที่ว่านี้ก็ได้เก็บพระที่ไหลลงมาใส่เรือ และนำมาแจกจ่ายให้กับคนที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกันเป็นจำนวนมากทีเดียวแต่ตอนแรกๆไม่มีคนสนใจกันนัก เพราะสนนราคาค่างวดไม่มีเอาเสียเลย พระรอดหนองมนที่ไม่มีคนสนใจนี่แหละ เริ่มดังขึ้นมาเหนือฟ้าจะแตกเหมือนโลกจะพังก็เพราะทหารกองพันทหารร่มค่ายเอราวัณได้ทำการโดดร่มลงมาจากเครื่องบิน (ใช้พระรอดหนองมนติดตัว) แล้วไม่เคยได้รับอันตรายเลยทั้ง ๆ ที่ควรจะได้รับอันตรายหลายครั้งหลายหนที่ผู้มีพระรอดหนองมนได้เกิดมีปาฏิหารย์ครั้งแล้วครั้งเล่าจนเป็นที่กล่าวขวัญของบรรดานักนิยมพระและหมู่นักโดดร่มแล้วเป็นจำนวนไม่น้อยเลย ข่าวลือครั้งแรกเลยนั้นของทหารร่มที่ใช้พระรอดหนองมนคล้องคอทำการโดดร่ม เพียงองค์เดียวเท่านั้นคือ จ.ส.อ.สุวรรณ อ้นองอาจ (ครูฝึก) ได้ทำการโดดร่มนำให้นักเรียนโดดตามเป็นคนแรกร่มนั้นเกิดเอ๊กซิเดนท์ไม่กาง ร่างกายของจ่าสุวรรณ ลอยละลิ่วปลิงลงมาสู่พื้นดินด้วยความเสียวสยองพื้นที่นั้นคือป่าไผ่และป่าไม้รวกบนยอดเขาเอราวัณนั่นเอง ร่างของจ่าสุวรรณหล่นลงมากลางป่าไผ่ - ไม้รวกร่มค้างเติ่งติดยอดไผ่ ส่วนตัวของจ่าสุวรรณกระทบกับภูเขา จนกระทั่งขาหัก เจ้าหน้าที่ทุกคนเห็นเหตุการณ์นั้นร้องอุทานออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า เฮ้ย เด็ดแน่ๆ (ตายแน่ๆ ว่ะ) ก็ได้วิ่งมาดูกันที่จุดร่มตกเพื่อค้นหา ระหว่างค้นหาบางคนก็กล่าวว่าเฮ้ยตายไหมวะ บางคนก็บอกว่าไม่รู้ว่ะ พูดกันเจี๊ยวจ๊าวไปหมด จนกระทั่งถึงจุดร่มตก จ่าสุวรรณ แกได้สติขึ้นมา ก็ร้องบอกว่า เฮ้ยกูยังไม่ตายและร้องขอความช่วยเหลือเพราะขาหัก ทุกคนโล่งอกที่จ่าไม่ตายและช่วยกันเก็บร่มและนำจ่าลงมาจากยอดเขาและนำส่งโรงพยาบาลต่อไป (ปัจจุบันนี้ จ.ส.อ.สุวรรณ อ้นองอาจปลดเกษียณไปแล้วเป็น พ.ต.สุวรรณ อ้นองอาจ) นี่เแหละครับจะเป็นปาฏิหาริย์ของพระรอดหรือไม่ก็พิจารณาเอาเอง เรื่องนี้เรื่องจริง และตั้งแต่บัดนี้มาพระรอดหนองมนจึงมีชื่อเสียงและมีคนเสื่อมใสศรัทธามากไม่แพ้พระชนิดอื่น ๆ เลยทีเดียว และเรื่องต่อไปที่ผมจะนำมาเล่าและกล่าวกับท่านผู้อ่านอย่างย่อ ๆ ก็คือ พลทหารได้ไปปราบ ผกค. (ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์) ได้ถูกพวกก่อการร้ายรุมซัลโวด้วยปืนนานาชนิด แต่แล้วเขาก็รอดตายมาได้เพราะเขาใช้พระรอดหนองมนเช่นกัน เขายังมีชีวิตอยู่สืบถามเขาดูได้ อีกเรื่องหนึ่งที่ผมจะยกมากล่าวเสียมิได้ คือ เรื่องของ ลูกชายผู้ใหญ่สำเนียง ถูกรถชนที่โคกสำโรงอำเภอโคกสำโรงจังหวัดลพบุรี ผู้โดยสารในรถนั้นปรากกฏว่าตายเรียบ เหลือไว้แต่ลูกผู้ใหญ่สำเนียงเพียงคนเดียวรอดตายมาราวปาฏิหาริย์และขณะที่ยังเจ็บอยู่ค้นพบในกระเป๋าเสื้อพบว่ามีพระรอดหนองมนองค์เดียว |
|||||||||||||||
ราคา
|
โทรถาม | |||||||||||||||
เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ
|
0610856586 | |||||||||||||||
ID LINE
|
0610856586 | |||||||||||||||
จำนวนการเข้าชม
|
9 ครั้ง | |||||||||||||||
บัญชีธนาคารที่ใช้ยืนยันตัวตน
|
ธนาคารไทยพาณิชย์ / 832-2-959xx-x
|
|||||||||||||||
|